Ford Everest Club Thailand ฟอร์ด เอเวอเรสต์คลับ (ประเทศไทย)
มุมข้อมูลทั่วไป - General Zone => ข่าวสารและข้อมูล All New Ford Everest 2015 => ข้อความที่เริ่มโดย: ROJ ที่ 19 ส.ค. 2015, 09:54:35
-
2.2 TITANIUM ออฟชั่นของ3.2+ จัดเต็มเลยตัวนี้
แต่!!!!!!ไมมีขายในไทยอีกแล้วคับท่าน ตัวนี้ส่งตลาดอินโดครับ
ฟอร์ด รถระดับโลกโดยคนไทย แต่คนไทยมีตัวเลือกในการซื้อน้อยเกิ้น :emo_046:
-
ภายในครับ รูปอาจไม่ค่อยชัด แดดจัดเกิ้น
-
ล้อ20
-
ขออภัยนะครับ สำหรับรูปที่ซ้ำกัน มีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อยคับ :emo_051:
-
เบาะแถวสามปรับไฟฟ้าไหมครับ ประตูหลังไฟฟ้าด้วยรึเปล่า มีไฟ 230v ด้วยมะถ้ามีหมดเหมือนตัวท็อป ผมนี่ขึ้นเลย
:emo_008:
-
:emo_110: :emo_110:
-
เบาะแถวสามปรับไฟฟ้าไหมครับ ประตูหลังไฟฟ้าด้วยรึเปล่า มีไฟ 230v ด้วยมะถ้ามีหมดเหมือนตัวท็อป ผมนี่ขึ้นเลย
:emo_008:บอกไปตอนต้นเเล้วนะคับ ทุกอย่างคือ3.2+ ยกเว้นระบบ4X4ครับ
-
สงสัยกั๊กไว้มาดันยอดขายปีหน้าแหงๆเลย
-
ตอนแรกอ่านแล้วก็ขึ้นเหมือนกันแต่เราไม่รู้ราคาขายนี่นาอาจจะแพงกว่าในไทยก็ได้ แล้วอีกอย่างขอตำหนิหน่อยภายในน่าจะเหมือนกันน๊ะรถตั้งล้านกว่าน๊ะครับ
-
ทำไม ford thailand มีข้อจำกัดอะไรครับ ถึงกำหนดยอดจองตัว top 3.2 plus ไว้น้อยเกินที่ผู้ซื้อต้องการ
-
ฟอร์ดผลิตที่ไทย แต่ทางเลือกให้คนไทยน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทั้งรุ่น สี ราคา แถมส่งของช้าอีก
-
รถไม่ดังมากและไม่ใช่เจ้าตลาดของไทย แต่เมืองนอกนิยมมากๆ คนไทยที่ชอบที่ตัวรถก็มีแต่ชาวคลับเรานี่ละครับมองประโยชน์ตอนใช้มากกว่ามองเรื่องขายต่อ และผมว่าขายเมืองนอกราคาก็ดีกว่าเมืองไทยนะครับเค้าตั้งราคาได้สูงกว่า ที่นี่เค้าเลยยังไม่สนรอให้เมืองนอกพอค่อยอัดที่เหลือมาให้คนไทยเหมือนสมัยเรนเจอร์เปะ
-
รอ ตัวนี้ดีกว่า 555
-
ลุ้นให้มาภายในปีนี้นะครับ รุ่นนี้
-
ตอนแรกอ่านแล้วก็ขึ้นเหมือนกันแต่เราไม่รู้ราคาขายนี่นาอาจจะแพงกว่าในไทยก็ได้ แล้วอีกอย่างขอตำหนิหน่อยภายในน่าจะเหมือนกันน๊ะรถตั้งล้านกว่าน๊ะครับ
เห็นด้วยครับ ภายในตรงคอนโซลต่างกัน โลโก้ everest ก็ไม่มี ขนาดตัว 3.2 ยังไม่มีเลย ลูกเล่นจัดเหมือนกันนะฟอร์ดไทย
-
ดูก้นชัดๆไปเลยดีกว่า อันนี้ 2.2กับ3.2
-
ดูก้นชัดๆไปเลยดีกว่า อันนี้ 2.2กับ3.2
มันต่างกันตามรูปเลย
-
ไม่รู้ในศูนย์มีขายEverest ที่คอนโซลหน้าหรือป่าวเพื่อจะซื้อมาติดตัว2.2
-
ไม่รู้ในศูนย์มีขายEverest ที่คอนโซลหน้าหรือป่าวเพื่อจะซื้อมาติดตัว2.2
คิดเหมือนกันเลยครับ :emo_052:
-
ขอตอบนะครับจากประสบการณ์ โดยมากตลาดอย่างอินโดและอินเดีย ฟอร์ดจะไม่ส่งเครื่องใหญ่เช่น 3.2 ลงในตลาด เหตุผลอินเดียน้ำมันดีเซลแพงและภาษีเครื่องยนต์นำเข้าเกิน 2.5 แพงบาดหัวใจ ส่วนอินโดภาษีรถใหญ่แพงครับ ดังนั้นไม่แปลกที่จะเจอ 2.2 ตัวท้อปแบบนั้นครับ ส่วนไทยเราเครื่องใหญ่ความท้อปเลยไปลงที่นั้น เพื่อให้ราคาสามารถเล่นได้ครับ
-
ถ้ามี จะมาเมื่อไรครับ ราคาประมาณไหนครับ
-
:-[
-
Everest ที่ขายในอินโนนีเซีย ราคา 634,000,000 รูเปีย อินโดนีเซีย
1 บาท ไทย = 378.69 รูเปีย อินโดนีเซีย
เอา 634,000,000 / 378.69 = 1,674,192.61 บาท ไทย
OMG แพงกว่า เมืองไทยอีก :emo_110:
Link : http://www.ford.co.id/en/suvs/all-new-everest/models?intcmp=vhp-module-compare#step=1
-
สมมุตินะครับ...ว่าเกิดผมซื้อตัว 2.2 ปัจจุบัน แล้วปีหน้าฟอร์ดออกตัวนี้มาบอกว่าเป็นรุ่น 2.2+ อะไรงี้... เซ็งเป็ดเลยครับ! ถึงแพงขึ้นผมก็เอานะ มันก็คงสมกับ value ของมันหน่ะ มันก็เหมือนอย่างที่คนแห่จองกันแต่ตัว 3.2+ ตัว 3.2 ธรรมดานี้เหลือเกลื่อน
-
แต่ถ้าดูจากรุ่นที่คุณ gf_robot เอามาให้ดู 2.2 titanium ของบ้านเราก็ถือเป็นตัวท็อปจริงๆ นะครับ รุ่น 2.2 MT abs ตัวแรก นี่เน้นแต่ตัวรถเปล่าๆจริงๆ
-
ของอินโด มี 2 ตัวนะครับ
All New Everest Trend 4x2 2.2L AT Automatic 560.000.000,-
หรือประมาณ 1,474,004 บาท ครับ
ส่วนตัว 3.2+
All New Everest Titanium Plus 4x2 2.2L AT Automatic 634.000.000,-
หรือประมาณ 1,668,783 บาทครับ
ราคาค่อนข้างต่างกับในบ้านเราพอสมควรเลย :-\
-
:emo_111: :emo_111:
-
ผมว่ามันจะมาตอนไมเนอร์เช้นแน่เลย อิอิ ความหวังของผมนะนี่ อิอิอิ :emo_051: :emo_051: :emo_051: :emo_051: :emo_051: :emo_051:
-
:emo_023:
-
2.2 titanium plus ที่มีออฟชั่นเหมือน 3.2+ ถ้าออกมาราคาคงบวกไปอีก 150,000 บาท(เดา)
ซี่งมาจากการเทียบกับ 3.2ธรรมดา กับ 3.2+ ต่างกัน 150,000 บาท ( 1,749,000-1,599,000)
ตอนนี้ 2.2 ราคา 1,389,000 ถ้า 2.2 titanium plus ออฟชั่นเหมือน 3.2 มาจริงคงมีราคา=1,389,000+150,000 = 1,539,000 บาท
ได้ออฟชั่นปี2016 แต่ราคาต่างกับ 3.2+ ปี2015 แค่60,000บาท (เดาอีกนั่นแหละ แต่คงประมาณๆนี้)
-
:P :P :P มันเจ็บ
-
เก้บข้อมูลครับ ภาวนาให้มาที่ไทยด้วยเถอะ ราคาเพิ่มนิดๆก็พอ ;)
-
ยวดยอด
-
2.2 option 3.2+ ตัว2016 มีมาแน่ครับ แต่เป็น 4x2 ผจก ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บอกว่าราคาประมาณ ล้านห้าแสนกว่าๆ. 1,5xx,000 รออีกสักพักมาแน่ครับ
-
2.2 option 3.2+ ตัว2016 มีมาแน่ครับ แต่เป็น 4x2 ผจก ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บอกว่าราคาประมาณ ล้านห้าแสนกว่าๆ. 1,5xx,000 รออีกสักพักมาแน่ครับ
อยากได้ อยากได่ :emo_069: :emo_069:
-
ล้านห้านี่น่าจะเป็น4x4เลยนะผมว่าอิอิ
-
ขอรอดูด้วยครับ
3.2+ NY16 ท็อป ขึ้นประมาณ 150,000 ออฟชั่นเพิ่ม
2.2L ไม่มีอะไรเพิ่ม (นอกจากราคา)
:emo_052:
-
http://www.autodeal.com.ph/cars/compare/ford+everest+titanium-2-2l-4x2-at+vs+ford+everest+titanium-3-2l-4x4-at-w-optional-premium-package+vs+ford+everest+titanium-2-2l-4x2-at-w-optional-premium-package
ผมเดาเอาว่าน่าจะเหมือนตัว2.2 อ๊อปชั่นพรีเมี่ยมที่ขายในฟิลิปปินส์
ระบบที่เพิ่มเข้ามา
- active park assist ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
- power lift gate ประตูหลังไฟฟ้า
- หลังคา sunroof
- ล้อแมกซ์ 20"
- lane departure warning
- เบาะแถวสามพับไฟฟ้า (เดาจาก Electric Adjustable Seats ไม่รู้ใช่ป่าว)
ีที่ไม่มีเหมือน 3.2+
- ระบบลดแรงชนกระแทกด้านหน้า Collision Mitigation System
- Lane Keeping System
- Hill Descent Control
ส่วน day time running light อันนี้ไม่มั่นใจ ในเวบไม่ได้เปรียบไว้
ราคาคาดว่าเพิ่มขึ้น 120,000
-
เขาบอกว่า2.2อืดกว่า3.2แต่อัตราการบริโภคน้ำมันใกล้เคียงกันอันนี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องไหม
-
ผมว่ากลับกันนะ อัตราเร่งไม่หนีกัน แต่กินน้ำมันน้อยกว่าพอควรครับ :emo_111:
-
คิดว่าจะวางขายเมื่อไหร่
-
จากที่ถามไถ่ผู้รุ้มาภายในสิ้นปีนี้ หรืออย่างเร็วปลาย Q3 :emo_108:
-
ถ้าราคาเพิ่มเยอะ 1xx,xxx บาท ดูตัว 3.2+ ท็อป 2016 น่าจะคุมเงินกว่า
จากการปรับภาษีแล้วได้ อ็อฟชั่นเพิ่ม :emo_052:
ไม่ได้ใช้งาน 4x4 ขอแค่ 4x2 พอครับ เพราะไม่ต้องดูแลรักษาระบบ 4x4
รอดูการปรับเปลี่ยนอ็อฟชั่นก่อนแล้วกัน C:-)
-
อยากได้มากเลบตัวนี้ :emo_008: :emo_008: :emo_008:
-
รอด้วยครับ 2.2 ออฟช้่น 3.2+ ชอบมาก
-
รอไม่ไหวแล้วครับ ออก2.2แล้ว :emo_102:
-
ข่าว ว่าหน้าจะ เดือน 6หรือ 7 อาจจะได้เห็น
-
ยังรออยู่นะครับ อีกไม่กี่วันก็จะเข้าเดือน 6 ละ ขอให้มาทีเถอะ
-
http://www.autodeal.com.ph/cars/compare/ford+everest+titanium-2-2l-4x2-at+vs+ford+everest+titanium-3-2l-4x4-at-w-optional-premium-package+vs+ford+everest+titanium-2-2l-4x2-at-w-optional-premium-package
ผมเดาเอาว่าน่าจะเหมือนตัว2.2 อ๊อปชั่นพรีเมี่ยมที่ขายในฟิลิปปินส์
ระบบที่เพิ่มเข้ามา
- active park assist ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
- power lift gate ประตูหลังไฟฟ้า
- หลังคา sunroof
- ล้อแมกซ์ 20"
- lane departure warning
- เบาะแถวสามพับไฟฟ้า (เดาจาก Electric Adjustable Seats ไม่รู้ใช่ป่าว)
ีที่ไม่มีเหมือน 3.2+
- ระบบลดแรงชนกระแทกด้านหน้า Collision Mitigation System
- Lane Keeping System
- Hill Descent Control
ส่วน day time running light อันนี้ไม่มั่นใจ ในเวบไม่ได้เปรียบไว้
ราคาคาดว่าเพิ่มขึ้น 120,000
ตัวนี้แหละครับตรงใจ ตรงความต้องการ สุด ๆ รออยู่นะครับ
-
ข่าว 2.2+ จาก headlightmag ครับ(http://upic.me/i/9h/12capture.jpg)
-
ข่าว 2.2+ จาก headlightmag ครับ(http://upic.me/i/9h/12capture.jpg)
เยี่ยมเลยครับตั้งตารอครับ2.2 Titanium+
-
วันก่อนไปเข้าศูนย์มา เซลล์บอกจะมี 2.2+ มาด้วย แต่ตอนไหนยังไม่แน่ ใครสนใจอดทนอีกนิดครับ
-
ว้าแย่จัง
-
เยี่ยมครับ ตอนแรกลังเลจะออก wild trak t6 แทนละครับ 555
-
ขอให้มาแล้วราคาไม่ขึ้นเยอะทีเถอ สาธุๆๆๆ :emo_116: :emo_116: :emo_090: :emo_090:
-
มีท่านไหนทราบราคา 2.2+ ที่จะมีในปลายปี 2016 หรือเป็นตัว 2017 ไหมครับ 2.2 ออฟชั่น3.2+
-
2.2+ Option 3.2+ ขับเคลื่อน 2ล้อ / ราคา 1,539,000 บาทครับ ได้ข่าวมาว่าราคานี้ ชัวร์ รอดูครับว่าแม่นไหม อีกไม่นานก็รู้ครับ
-
เห็นว่ามีรุ่น 2.2 Trend 4x2 M ด้วยราคา 1,1xx,000 บาท ต้องรอว่าจริงไม
-
2.2+ Option 3.2+ ขับเคลื่อน 2ล้อ / ราคา 1,539,000 บาทครับ ได้ข่าวมาว่าราคานี้ ชัวร์ รอดูครับว่าแม่นไหม อีกไม่นานก็รู้ครับ
2.2 1,389,000 เท่ากับห่างกัน 150,000 ดูแล้วสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้มา ทั้ง moon roof, auto lift gate, เบาะหลังพับไฟฟ้า, ล้อ20", ไฟหน้า adaptive projector พร้อม LED DRL, adaptive cruise control, parking assist, lane departure warning
คงเหลือแต่ส่วนลด คงให้ไม่ได้มากเหมือน 2.2
-
ผมรอ 2.2+ รอแล้วรออีก จนเริ่มไปมองๆ ไปเทส cx-5 xd บ้างแล้วครับ แต่ใจยังอยู่ที่น้องเอฟอยู่ดี รีบๆมาทีเถอะ เฮ้อ
-
2.2+ จากแหล่งข่าว ราคาจบที่ 1599000
-
ฮาาาา ถ้าราคาตั้ง ล้านหก ทอนบาทเดียว น่าจะมีผลต่อบางกลุ่มที่มองแต่ราคาตั้งไม่พูดถึงส่วนลดบ้างไม่น้อย :D
-
ถ้าราคานี้ผมขึ้นไป 3.2+ ดีกว่า
-
ผมว่าราคาไม่เกินล้านห้า กลมๆ น่าจะสวยสุดครับ. pjs อัดออพชั่นมาให้เพียบ ยังถูกกว่าเยอะเลยครับ อย่าเกินล้านห้าเลยครับ
-
ผมว่าราคาไม่เกินล้านห้า กลมๆ น่าจะสวยสุดครับ. pjs อัดออพชั่นมาให้เพียบ ยังถูกกว่าเยอะเลยครับ อย่าเกินล้านห้าเลยครับ
ขอให้เป็นแบบนั้นเช่นกันสาธุครับ .... :emo_008:
-
จริงครับแบบพี่ว่าครับ ผมสอบถามเซลลมาว่ารับจองแล้วแต่ยังไม่บอกราคาตั้งเลยครับ
-
้เดี้ยวไว้มีโอกาศ ผมจะทำ รีวิว ของทางด้าน 2.2+ มาให้ทราบกันซึ่งรถจะเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทย กลางเดือน สิงหาคมนี่เองครับผม
-
เคาะมาแล้ว 1549500 มั้งครับ
-
เคาะมาแล้ว 1549500 มั้งครับ
ค่อนข้างชัดเจนแล้วครับ ก่อนหน้านี้คงแกล้งปล่อยข่าวให้ผวา เพื่อระบาย2.2 ที่ค้างอยู่มังครับ
-
:emo_102: รอเลยครับ ชอบๆ
-
มีท่านใดพอจะมีรายละเอียดไหมครับ
-
ข้อมูลจากเซล
-
ข้อมูลจากเซล
ไม่มี 4x4 เหรอครับ ออฟชั่นเท่าทีดู ได้ไม่เท่า 3.2+ หายไปหลายอย่าง
ผมนึกว่า ได้ออฟชั่นเท่า 3.2+ แปะ ยกเว้นเครื่องที่ต่าง ...ผิดหวัง...
-
ข้อมูลจากเซล
ไม่มี 4x4 เหรอครับ ออฟชั่นเท่าทีดู ได้ไม่เท่า 3.2+ หายไปหลายอย่าง
ผมนึกว่า ได้ออฟชั่นเท่า 3.2+ แปะ ยกเว้นเครื่องที่ต่าง ...ผิดหวัง...
ูแปลกใจจังครับ ว่าดูยังไงไม่เท่า 3.2+ แทบจะเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นเครื่องกับระบบขับสี่ :-X
-
ข้อมูลจากเซล
ขอบคุณครับ
ไม่ขับสี่ดีแล้วครับผม(สำหรับผมนะ)
ถ้าขับสี่ผมมีกระบะไว้ลุยอยู่แล้วครับ
-
https://www.youtube.com/watch?v=Psa9VyN-8dY
-
ดูสเปคแล้วทำให้ต้องรอ 2.2+เลยครับ ระบบsafety มายมายเลยชอบๆๆครับ
(แสดงว่าตัวเดียวกับที่ส่งให้อินโดนีเซีย )
-
ดูสเปคแล้วทำให้ต้องรอ 2.2+เลยครับ ระบบsafety มายมายเลยชอบๆๆครับ
(แสดงว่าตัวเดียวกับที่ส่งให้อินโดนีเซีย )
ที่ผมได้รับข้อมูลมานะครับ ทางศูนย์ Ford แห่งประเทศไทย เค้าแจ้งว่าเปิดตัวEV2.2+ในงานBIG Motor Sale 2016 @ ไบเทคบางนา ครับส่วนราคา ที่เคาะมาแล้ว 1,549,000บ. ที่สำคัญสามารถส่งมอบรถน่าจะประมาณ เดือนกันยายน59นี้(อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไรนะครับ) เห็นแจ้งบางจังหวัดเดือนสิงหานี้ก็มีการจองกัน3-5คันไปแล้วด้วยครับ ปล.ผมก็เตรียมเงินออก2.2+ไว้แล้วเหมือนกันครับ :emo_103:
-
เห็น 2.2+ ตาม spec เป็น Sync3 แล้ว
คนที่ออกรถไปก่อนหน้านี้ สามารถ update จาก Sync2 เป็น Sync3 ทีหลังได้ไหมเอ่ย
ปล.แอบหวังนิสๆ
-
ข้อมูลจากเซล
ไม่มี 4x4 เหรอครับ ออฟชั่นเท่าทีดู ได้ไม่เท่า 3.2+ หายไปหลายอย่าง
ผมนึกว่า ได้ออฟชั่นเท่า 3.2+ แปะ ยกเว้นเครื่องที่ต่าง ...ผิดหวัง...
ูแปลกใจจังครับ ว่าดูยังไงไม่เท่า 3.2+ แทบจะเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นเครื่องกับระบบขับสี่ :-X
โทษครับ ดูช่องผิด. จริงแล้วเหมือนท่านบอกถูกต้องแล้ว ขออภัยครับผมไม่ละเอียดเอง
-
ถ้าไม่เอาหลังคาแก้ว และ ช่วยจอด ลดสักแสน ผมก็สู้นะ
-
https://www.youtube.com/watch?v=Psa9VyN-8dY
ฟังไม่ออกเลยครับ :emo_114: แต่ก็พอมองเห็นภาพรวม 2.2+ ชัดเจนขึ้น ฝาท้ายมีคำว่า TITANIUM บ่งบอกว่าเป็นรุ่น 2.2 Plus แปลกใจหน่อยในคลิปไม่เห็นพูดถึง sync 3
ดูเหมือนตลาด EV ในอินโดคนสนใจพอสมควร คลิปยอดคนวิวดูเป็นแสน
ฟอร์ดออกตัวนี้ เชื่อว่าขายดีกว่า 2.2 ตัวเดิมแน่นอน น่าจะทำให้ตลาดรวม PPV เป็นที่สองตลอดการณ์รองจากเจ้าตลาด Toyota FN
-
ฟอร์ดอินโดพึ่งจะเสริมรุ่นย่อย 2.2 Titanium+ เข้าไปคู่กับ 3.2 Titanium+
ตลาด EV ที่นั่นคงใหญ่ไม่ใช่เล่น เพราะมีถึง 7 รุ่นย่อยแถมเน้นแต่เครื่อง 2.2 เป็นหลัก มี เครื่อง 3.2 แค่รุ่นท็อปตัวเดียว รุ่นเกียร MT มีถึง 3 รุ่น บ้านเค้าคงเน้นเอา EV มาใช้งานเอนกประสงค์ทั่วไปอย่างกระบะสี่ประตูที่ขายดีแบบบ้านเรา กลับกันกับตลาด PPV เมืองไทยที่นิยมแต่รุ่นพรีเมื่ยม
(http://upic.me/i/jf/fordevindonesia.jpg)
-
ไม่แน่ใจว่าภายในตัวนี้ ตกแต่งเหมือนตัว Top 3.2 T+หรือเปล่าครับ เพราะ Spec อินโดตกแต่งไม่เหมือน ที่คอนโซลหน้าไม่มี หุ้มหนัง
-
ไม่แน่ใจว่าภายในตัวนี้ ตกแต่งเหมือนตัว Top 3.2 T+หรือเปล่าครับ เพราะ Spec อินโดตกแต่งไม่เหมือน ที่คอนโซลหน้าไม่มี หุ้มหนัง
ดูจากในคลิปตามลิงค์ก็มีนะครับคอนโซลหุ้มหนัง หรือตัวขายในไทยไม่มีต้องรอชมของจริงครับ
-
ไม่แน่ใจว่าภายในตัวนี้ ตกแต่งเหมือนตัว Top 3.2 T+หรือเปล่าครับ เพราะ Spec อินโดตกแต่งไม่เหมือน ที่คอนโซลหน้าไม่มี หุ้มหนัง
ดูจากในคลิปตามลิงค์ก็มีนะครับคอนโซลหุ้มหนัง หรือตัวขายในไทยไม่มีต้องรอชมของจริงครับ
ใครพอมีรูปที่ ออกมาเปิดตัวบ้างครับสำหรับ 2.2 L T+ ส่งภายในมาให้ดูกันบ้าง ประกอบการตัดสินใจ
-
2.2+ มีระบบช่วยลงเขา แบบ 3.2+ ไหมครับ
-
:emo_102:
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
คิดเหมือนกันเลยครับ บางที รถแพงกว่า แต่บางอย่างกลับไม่มีเหมือนรถถูกกว่า(มาก)
- smart entry & Keyless
- push start
เดี๋ยวนี้ รถ B-Segment ยัน Eco Car ยังมีเลย ราคาถูกว่าหลายเท่าตัว ถึงมองว่า EV มาออฟชั่นเยอะกว่ารถ ราคา หรือ segment เดียวกัน แต่ของพวกนี้น่าจะพิจารณาใส่มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานได้แล้ว
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
คิดเหมือนกันเลยครับ บางที รถแพงกว่า แต่บางอย่างกลับไม่มีเหมือนรถถูกกว่า(มาก)
- smart entry & Keyless
- push start
เดี๋ยวนี้ รถ B-Segment ยัน Eco Car ยังมีเลย ราคาถูกว่าหลายเท่าตัว ถึงมองว่า EV มาออฟชั่นเยอะกว่ารถ ราคา หรือ segment เดียวกัน แต่ของพวกนี้น่าจะพิจารณาใส่มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานได้แล้ว
ส่วนตัวผมกลับไม่ชอบ Push start เพราะมันมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและ ปัญหาเรื่องตัวรีโมต เพราะ ที่บ้านมีรถสองคัน ตัวหนึ่งเป็นกระบะ Ford ใช้กุญแจสตาร์ทปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต้องเสียบกุญแจตลอด เวลา Start และอยู่ด้านข้างคนขับ แต่อีกคัน เป็น Push start และมี Remote เปิดปิดประตูมาให้ มีปัญหากันตลอด คือ
1. ปุ่มมาอยู่ข้างเครื่องเสียง ขับๆ อยู่ คนนั่งข้างมาเผลอกด หรือลูกมาเล่นด้านหน้าตอนรถติด เผลอกด ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบกุญแจแบบเดิม ไม่มีทางเกิดแบบนี้
2. แฟนมักพกรีโมตใส่กระเป๋าถือ บางครั้งสลับให้ผมขับ เธอลงไปทำธุระ เอากระเป๋าถือไปด้วย ผมลงไปเปิดเอาของหลังรถ กลับมารถยังไม่ได้ดับเครื่อง ผมก็เลยขับไปที่อื่นต่อ มันไปได้นะ แต่มีเสียงเตือนแค่ช่วงแรก ที่กุญแจไม่อยู่ที่รถ ช่วงที่ผมไปเปิดเอาของท้ายรถ และไฟเตือนแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น คราวนี้ ยุ่งเลย เพราะผมขับไปที่อื่นแล้ว แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ก็ไม่ได้แล้ว บรรลัยเกิด ต้องให้นั่งวินตามมา แต่ถ้าเป็นกุญแจไม่เกิดปัญหานี้ แน่นอนเพราะต้องคาไว้ตลอด ไม่มีเผลอ
3. ต้องมานั่งหาตัวรีโมตกันตลอด เวลาจะออกจากบ้านเพราะมันคิดว่ามันอยู่ในรถ กดปุ่มเอาก็ได้ เพราะมานั่งในรถ กันหมดทุกคน ก็มาถามกันว่ารีโมตอยู่ไหน ยุ่งฉิบหาย สุดท้ายอยู่ในบ้านต้องไปเอาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยมาก แต่ถ้าเป็นกุญแจ มันบังคับให้เราต้องมีกุญแจมาเพื่อสตาร์ทรถ ถ้าไปอีกคันไม่เคยเจอปัญหานี้เลย
เท่าที่ผมใช้มาสองคันที่บ้าน เจอแบบนี้ทะเลาะกันทุกที ผมชอบแบบเดิมๆ มากกว่า ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเรื่องแบบนี้ ครับ ปลอดภัยด้วย ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องมาดราม่า กันนะครับ ความเห็นใครก็ความเห็นมัน ไม่มี 100% หรอกครับ
-
อันนี้เห็นด้วยครับว่า keyless + push start botton ควรจะมีได้แล้ว
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
คิดเหมือนกันเลยครับ บางที รถแพงกว่า แต่บางอย่างกลับไม่มีเหมือนรถถูกกว่า(มาก)
- smart entry & Keyless
- push start
เดี๋ยวนี้ รถ B-Segment ยัน Eco Car ยังมีเลย ราคาถูกว่าหลายเท่าตัว ถึงมองว่า EV มาออฟชั่นเยอะกว่ารถ ราคา หรือ segment เดียวกัน แต่ของพวกนี้น่าจะพิจารณาใส่มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานได้แล้ว
ส่วนตัวผมกลับไม่ชอบ Push start เพราะมันมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและ ปัญหาเรื่องตัวรีโมต เพราะ ที่บ้านมีรถสองคัน ตัวหนึ่งเป็นกระบะ Ford ใช้กุญแจสตาร์ทปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต้องเสียบกุญแจตลอด เวลา Start และอยู่ด้านข้างคนขับ แต่อีกคัน เป็น Push start และมี Remote เปิดปิดประตูมาให้ มีปัญหากันตลอด คือ
1. ปุ่มมาอยู่ข้างเครื่องเสียง ขับๆ อยู่ คนนั่งข้างมาเผลอกด หรือลูกมาเล่นด้านหน้าตอนรถติด เผลอกด ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบกุญแจแบบเดิม ไม่มีทางเกิดแบบนี้
อันนี้เป็นเรื่อง design แล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวกับหรือดีไม่ได้ บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ซ้ายพวงมาลัย บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ขวาพวงมาลัย
2. แฟนมักพกรีโมตใส่กระเป๋าถือ บางครั้งสลับให้ผมขับ เธอลงไปทำธุระ เอากระเป๋าถือไปด้วย ผมลงไปเปิดเอาของหลังรถ กลับมารถยังไม่ได้ดับเครื่อง ผมก็เลยขับไปที่อื่นต่อ มันไปได้นะ แต่มีเสียงเตือนแค่ช่วงแรก ที่กุญแจไม่อยู่ที่รถ ช่วงที่ผมไปเปิดเอาของท้ายรถ และไฟเตือนแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น คราวนี้ ยุ่งเลย เพราะผมขับไปที่อื่นแล้ว แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ก็ไม่ได้แล้ว บรรลัยเกิด ต้องให้นั่งวินตามมา แต่ถ้าเป็นกุญแจไม่เกิดปัญหานี้ แน่นอนเพราะต้องคาไว้ตลอด ไม่มีเผลอ
ถ้าเป็นกุญแจ แล้วคนอื่นเอาไป(แฟน/พี่/น้อง...) ก็ไม่ได้ต่างกันเลย น่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลมากกว่าครับ
3. ต้องมานั่งหาตัวรีโมตกันตลอด เวลาจะออกจากบ้านเพราะมันคิดว่ามันอยู่ในรถ กดปุ่มเอาก็ได้ เพราะมานั่งในรถ กันหมดทุกคน ก็มาถามกันว่ารีโมตอยู่ไหน ยุ่งฉิบหาย สุดท้ายอยู่ในบ้านต้องไปเอาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยมาก แต่ถ้าเป็นกุญแจ มันบังคับให้เราต้องมีกุญแจมาเพื่อสตาร์ทรถ ถ้าไปอีกคันไม่เคยเจอปัญหานี้เลย
จอดที่บ้าน ที่ทำงาน ที่เที่ยว หรือที่อื่นๆ ไม่มีใครเขาเอารีโมร์ททิ้งไว้ในรถหรอกครับ ทำแบบนี้เอารถจอดไว้รอขโมยเลย
เท่าที่ผมใช้มาสองคันที่บ้าน เจอแบบนี้ทะเลาะกันทุกที ผมชอบแบบเดิมๆ มากกว่า ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเรื่องแบบนี้ ครับ ปลอดภัยด้วย ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องมาดราม่า กันนะครับ ความเห็นใครก็ความเห็นมัน ไม่มี 100% หรอกครับ
ดีครับ ถือว่าแชร์ความคิดเห็นมากกว่า ไม่มีดราม่าอะไรหรอก
ผมแค่มองว่า มันควรจะมีในสิ่งที่พื้นฐานๆ ซึ่งจะดีกับผู้บริโภคและเทรนด์ของรถสมัยนี้ครับ เพราะไม่ว่าค่ายอื่นหรืออะไรหรอก แค่ ford fiesta หรือ ford focus เองยังมีเลยครับ
:D
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
คิดเหมือนกันเลยครับ บางที รถแพงกว่า แต่บางอย่างกลับไม่มีเหมือนรถถูกกว่า(มาก)
- smart entry & Keyless
- push start
เดี๋ยวนี้ รถ B-Segment ยัน Eco Car ยังมีเลย ราคาถูกว่าหลายเท่าตัว ถึงมองว่า EV มาออฟชั่นเยอะกว่ารถ ราคา หรือ segment เดียวกัน แต่ของพวกนี้น่าจะพิจารณาใส่มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานได้แล้ว
ส่วนตัวผมกลับไม่ชอบ Push start เพราะมันมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและ ปัญหาเรื่องตัวรีโมต เพราะ ที่บ้านมีรถสองคัน ตัวหนึ่งเป็นกระบะ Ford ใช้กุญแจสตาร์ทปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต้องเสียบกุญแจตลอด เวลา Start และอยู่ด้านข้างคนขับ แต่อีกคัน เป็น Push start และมี Remote เปิดปิดประตูมาให้ มีปัญหากันตลอด คือ
1. ปุ่มมาอยู่ข้างเครื่องเสียง ขับๆ อยู่ คนนั่งข้างมาเผลอกด หรือลูกมาเล่นด้านหน้าตอนรถติด เผลอกด ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบกุญแจแบบเดิม ไม่มีทางเกิดแบบนี้
อันนี้เป็นเรื่อง design แล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวกับหรือดีไม่ได้ บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ซ้ายพวงมาลัย บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ขวาพวงมาลัย
2. แฟนมักพกรีโมตใส่กระเป๋าถือ บางครั้งสลับให้ผมขับ เธอลงไปทำธุระ เอากระเป๋าถือไปด้วย ผมลงไปเปิดเอาของหลังรถ กลับมารถยังไม่ได้ดับเครื่อง ผมก็เลยขับไปที่อื่นต่อ มันไปได้นะ แต่มีเสียงเตือนแค่ช่วงแรก ที่กุญแจไม่อยู่ที่รถ ช่วงที่ผมไปเปิดเอาของท้ายรถ และไฟเตือนแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น คราวนี้ ยุ่งเลย เพราะผมขับไปที่อื่นแล้ว แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ก็ไม่ได้แล้ว บรรลัยเกิด ต้องให้นั่งวินตามมา แต่ถ้าเป็นกุญแจไม่เกิดปัญหานี้ แน่นอนเพราะต้องคาไว้ตลอด ไม่มีเผลอ
ถ้าเป็นกุญแจ แล้วคนอื่นเอาไป(แฟน/พี่/น้อง...) ก็ไม่ได้ต่างกันเลย น่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลมากกว่าครับ
3. ต้องมานั่งหาตัวรีโมตกันตลอด เวลาจะออกจากบ้านเพราะมันคิดว่ามันอยู่ในรถ กดปุ่มเอาก็ได้ เพราะมานั่งในรถ กันหมดทุกคน ก็มาถามกันว่ารีโมตอยู่ไหน ยุ่งฉิบหาย สุดท้ายอยู่ในบ้านต้องไปเอาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยมาก แต่ถ้าเป็นกุญแจ มันบังคับให้เราต้องมีกุญแจมาเพื่อสตาร์ทรถ ถ้าไปอีกคันไม่เคยเจอปัญหานี้เลย
จอดที่บ้าน ที่ทำงาน ที่เที่ยว หรือที่อื่นๆ ไม่มีใครเขาเอารีโมร์ททิ้งไว้ในรถหรอกครับ ทำแบบนี้เอารถจอดไว้รอขโมยเลย
เท่าที่ผมใช้มาสองคันที่บ้าน เจอแบบนี้ทะเลาะกันทุกที ผมชอบแบบเดิมๆ มากกว่า ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเรื่องแบบนี้ ครับ ปลอดภัยด้วย ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องมาดราม่า กันนะครับ ความเห็นใครก็ความเห็นมัน ไม่มี 100% หรอกครับ
ดีครับ ถือว่าแชร์ความคิดเห็นมากกว่า ไม่มีดราม่าอะไรหรอก
ผมแค่มองว่า มันควรจะมีในสิ่งที่พื้นฐานๆ ซึ่งจะดีกับผู้บริโภคและเทรนด์ของรถสมัยนี้ครับ เพราะไม่ว่าค่ายอื่นหรืออะไรหรอก แค่ ford fiesta หรือ ford focus เองยังมีเลยครับ
:D
ตอบข้อสองนะครับ ผมว่าคุณอ่านของผมไม่ครบนะครับ ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนบุคคลครับ ลองอ่านดูใหม่ ครับ การที่เราคากุญแจไว้ที่รถปลอดภัยกว่าครับ ไม่เหมือนปุ่มกดสตาร์ด เพราะมันเป็นการแยกเอารีโมตออกจากตัวรถได้ง่าย ๆ อ่านให้เข้าใจอีกทีครับ
ส่วนข้อสามก็เช่นเดียวกันลองอ่านให้เข้าใจอีกที ครับ ผมบอกว่ามีการลืมรีโมตทิ้งไว้ในบ้าน ไม่ใช่เหรอ ผมก็เขียนอยู่ชัดๆ แต่ตัวรีโมตมันสามารถแยกจากจุดที่เราต้องทำการสตาร์ดได้ครับ ทำให้เกิดความสับสนได้ว่า เราเอารีโมตมาหรือยัง ลองอ่านอีกที ให้ครบ นะครับ ไม่ต้องดราม่ามาอีกนะครับ
-
น่าจะมี keyless มาได้แล้วนะครับนี่
คิดเหมือนกันเลยครับ บางที รถแพงกว่า แต่บางอย่างกลับไม่มีเหมือนรถถูกกว่า(มาก)
- smart entry & Keyless
- push start
เดี๋ยวนี้ รถ B-Segment ยัน Eco Car ยังมีเลย ราคาถูกว่าหลายเท่าตัว ถึงมองว่า EV มาออฟชั่นเยอะกว่ารถ ราคา หรือ segment เดียวกัน แต่ของพวกนี้น่าจะพิจารณาใส่มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานได้แล้ว
ส่วนตัวผมกลับไม่ชอบ Push start เพราะมันมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและ ปัญหาเรื่องตัวรีโมต เพราะ ที่บ้านมีรถสองคัน ตัวหนึ่งเป็นกระบะ Ford ใช้กุญแจสตาร์ทปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต้องเสียบกุญแจตลอด เวลา Start และอยู่ด้านข้างคนขับ แต่อีกคัน เป็น Push start และมี Remote เปิดปิดประตูมาให้ มีปัญหากันตลอด คือ
1. ปุ่มมาอยู่ข้างเครื่องเสียง ขับๆ อยู่ คนนั่งข้างมาเผลอกด หรือลูกมาเล่นด้านหน้าตอนรถติด เผลอกด ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบกุญแจแบบเดิม ไม่มีทางเกิดแบบนี้
อันนี้เป็นเรื่อง design แล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวกับหรือดีไม่ได้ บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ซ้ายพวงมาลัย บางคันบางยี่ห้อก็อยู่ขวาพวงมาลัย
2. แฟนมักพกรีโมตใส่กระเป๋าถือ บางครั้งสลับให้ผมขับ เธอลงไปทำธุระ เอากระเป๋าถือไปด้วย ผมลงไปเปิดเอาของหลังรถ กลับมารถยังไม่ได้ดับเครื่อง ผมก็เลยขับไปที่อื่นต่อ มันไปได้นะ แต่มีเสียงเตือนแค่ช่วงแรก ที่กุญแจไม่อยู่ที่รถ ช่วงที่ผมไปเปิดเอาของท้ายรถ และไฟเตือนแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น คราวนี้ ยุ่งเลย เพราะผมขับไปที่อื่นแล้ว แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ก็ไม่ได้แล้ว บรรลัยเกิด ต้องให้นั่งวินตามมา แต่ถ้าเป็นกุญแจไม่เกิดปัญหานี้ แน่นอนเพราะต้องคาไว้ตลอด ไม่มีเผลอ
ถ้าเป็นกุญแจ แล้วคนอื่นเอาไป(แฟน/พี่/น้อง...) ก็ไม่ได้ต่างกันเลย น่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลมากกว่าครับ
3. ต้องมานั่งหาตัวรีโมตกันตลอด เวลาจะออกจากบ้านเพราะมันคิดว่ามันอยู่ในรถ กดปุ่มเอาก็ได้ เพราะมานั่งในรถ กันหมดทุกคน ก็มาถามกันว่ารีโมตอยู่ไหน ยุ่งฉิบหาย สุดท้ายอยู่ในบ้านต้องไปเอาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยมาก แต่ถ้าเป็นกุญแจ มันบังคับให้เราต้องมีกุญแจมาเพื่อสตาร์ทรถ ถ้าไปอีกคันไม่เคยเจอปัญหานี้เลย
จอดที่บ้าน ที่ทำงาน ที่เที่ยว หรือที่อื่นๆ ไม่มีใครเขาเอารีโมร์ททิ้งไว้ในรถหรอกครับ ทำแบบนี้เอารถจอดไว้รอขโมยเลย
เท่าที่ผมใช้มาสองคันที่บ้าน เจอแบบนี้ทะเลาะกันทุกที ผมชอบแบบเดิมๆ มากกว่า ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเรื่องแบบนี้ ครับ ปลอดภัยด้วย ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องมาดราม่า กันนะครับ ความเห็นใครก็ความเห็นมัน ไม่มี 100% หรอกครับ
ดีครับ ถือว่าแชร์ความคิดเห็นมากกว่า ไม่มีดราม่าอะไรหรอก
ผมแค่มองว่า มันควรจะมีในสิ่งที่พื้นฐานๆ ซึ่งจะดีกับผู้บริโภคและเทรนด์ของรถสมัยนี้ครับ เพราะไม่ว่าค่ายอื่นหรืออะไรหรอก แค่ ford fiesta หรือ ford focus เองยังมีเลยครับ
:D
ตอบข้อสองนะครับ ผมว่าคุณอ่านของผมไม่ครบนะครับ ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนบุคคลครับ ลองอ่านดูใหม่ ครับ การที่เราคากุญแจไว้ที่รถปลอดภัยกว่าครับ ไม่เหมือนปุ่มกดสตาร์ด เพราะมันเป็นการแยกเอารีโมตออกจากตัวรถได้ง่าย ๆ อ่านให้เข้าใจอีกทีครับ
ส่วนข้อสามก็เช่นเดียวกันลองอ่านให้เข้าใจอีกที ครับ ผมบอกว่ามีการลืมรีโมตทิ้งไว้ในบ้าน ไม่ใช่เหรอ ผมก็เขียนอยู่ชัดๆ แต่ตัวรีโมตมันสามารถแยกจากจุดที่เราต้องทำการสตาร์ดได้ครับ ทำให้เกิดความสับสนได้ว่า เราเอารีโมตมาหรือยัง ลองอ่านอีกที ให้ครบ นะครับ ไม่ต้องดราม่ามาอีกนะครับ
ส่วนตัว ผมก็ยังอยากให้มี smart entry keyless เหมือนเดิม เพราะสมัยนิยม และความขอบส่วนตัว และราคารถขนาดนี้ไม่มีถือว่าตัด option ที่น่าสนใจไปอย่างหนึ่งเลย และผมก็ค่อยข้างมั่นใจว่า หลายๆ คนชอบและอยากได้ option นี้
ผมขอชี้แจงตามนี้นะครับ
2. แฟนมักพกรีโมตใส่กระเป๋าถือ บางครั้งสลับให้ผมขับ เธอลงไปทำธุระ เอากระเป๋าถือไปด้วย ผมลงไปเปิดเอาของหลังรถ กลับมารถยังไม่ได้ดับเครื่อง ผมก็เลยขับไปที่อื่นต่อ มันไปได้นะ แต่มีเสียงเตือนแค่ช่วงแรก ที่กุญแจไม่อยู่ที่รถ ช่วงที่ผมไปเปิดเอาของท้ายรถ และไฟเตือนแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น คราวนี้ ยุ่งเลย เพราะผมขับไปที่อื่นแล้ว แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ก็ไม่ได้แล้ว บรรลัยเกิด ต้องให้นั่งวินตามมา แต่ถ้าเป็นกุญแจไม่เกิดปัญหานี้ แน่นอนเพราะต้องคาไว้ตลอด ไม่มีเผลอ
-> "ตอบข้อสองนะครับ ผมว่าคุณอ่านของผมไม่ครบนะครับ ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนบุคคลครับ ลองอ่านดูใหม่ ครับ การที่เราคากุญแจไว้ที่รถปลอดภัยกว่าครับ ไม่เหมือนปุ่มกดสตาร์ด เพราะมันเป็นการแยกเอารีโมตออกจากตัวรถได้ง่าย ๆ อ่านให้เข้าใจอีกทีครับ "
ผมอธิบายว่า เป็นพฤติกรรมของคน หรือผู้ใช้รถเอง เพราะเนื่องจาก ปัจจุบัน รถยนต์ ร้อย 60 ตั้งแต่ B ถึง D segment ราคาหลัก 4 แสน ก็มีระบบ smart entry & keyless กันแล้วทั้งนั้น แต่ปัญหาที่คุณพบ หรือ บอกว่า เรื่องการสลับกระเป๋าหรือมีคนเอากุญแจออกจากรถไปโดยไม่ตั้งใจ
เท่าที่ทราบ รถแทบทุกรุ่นที่มีระบบ smart entry&keyless เนี่ยะ ระบบมันจะเตือนอยู่แล้ว เมื่อกุญแจออกห่างจากตัวรถ น่ารู้ตัวน่ะ และหลายๆ คนก็รู้ตัวถ้ามันเตือน
หรือถ้าคุณบอกว่า อยากให้เอากุญแจไว้ใสรถหรือเสียบคาไว้ในรถ อุ่นใจสุด คุณไปดู volvo ครับ เขามีระบบ smart entry&keyless แต่เขาก็มีที่เสียบกุญแจรถ(ไม่ใช่เสียบแค่ดอกกุญแจเพื่อบิด start รถน่ะ แต่มันเป็นที่เสียบหรือที่เก็บกญแจทั้งอัน ยัดลงไปเลย ถ้าค่ายรถกลัวเหตุการณ์ที่คุณบอก มันก็ไม่น่าจะเสียหายหรือเพิ่ม cost มากมาย ในการทำที่เสียบแบบนี้ มากนัก
3. ต้องมานั่งหาตัวรีโมตกันตลอด เวลาจะออกจากบ้านเพราะมันคิดว่ามันอยู่ในรถ กดปุ่มเอาก็ได้ เพราะมานั่งในรถ กันหมดทุกคน ก็มาถามกันว่ารีโมตอยู่ไหน ยุ่งฉิบหาย สุดท้ายอยู่ในบ้านต้องไปเอาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยมาก แต่ถ้าเป็นกุญแจ มันบังคับให้เราต้องมีกุญแจมาเพื่อสตาร์ทรถ ถ้าไปอีกคันไม่เคยเจอปัญหานี้เลย
-> "ส่วนข้อสามก็เช่นเดียวกันลองอ่านให้เข้าใจอีกที ครับ ผมบอกว่ามีการลืมรีโมตทิ้งไว้ในบ้าน ไม่ใช่เหรอ ผมก็เขียนอยู่ชัดๆ แต่ตัวรีโมตมันสามารถแยกจากจุดที่เราต้องทำการสตาร์ดได้ครับ ทำให้เกิดความสับสนได้ว่า เราเอารีโมตมาหรือยัง"
ผมอธิบายไป หมายความว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ บ้าน ที่ทำงาน หรืออื่นๆ ถ้าลืมกุญแจไว้ห่างจากตัวรถมากพอสมควร ไอ้เจ้า smart entry&keyless นี่มันจะทำงานหรือครับ ถามจริง คุณบอกว่าเดินมาที่รถ เข้าไปนั่งในรถกันหมด แล้วถามหากุญแจ คุณจะเข้าไปนั่งในรถได้โดยไม่มีกุญแจติดตัวไปด้วยหรือครับ?? หรือว่าผมงง เข้าใจผิดไปเอง ว่าไม่ต้องมีกุญแจหรือถือกุญแจในระยะที่ระบบยอมให้เปิดประตู ไปกดปุ่มเล็กๆ ที่มือจับเปิดประตูได้เลย โดยไม่ต้องพกกุญแจ มันก็เปิดให้ได้ ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าจะเข้ารถได้ แสดงว่า ต้องมีกุญแจทิ้งไว้ในรถหรือป่าว(ถ้าไม่พกไว้กับตัว) ที่ผมอยากจะสื่อมีแค่นี้
สุดท้าย เอาเป็นว่า แล้วแต่คนชอบละกันครับ คุณไม่ชอบ ก็แล้วไป เพราะ ford ไม่รู้จะใส่ใน everest ตัวปัจจุบันหรือป่าวด้วย
-
:emo_069: